Monday, March 11, 2013

ไก่ตุ๋นโสม


วันนี้ (15 ก.ค.) ที่ประเทศเกาหลีเป็นวันที่เค้าเรียกว่า โช-บก วันนี้ถือเป็นวันแรกที่ย่างเข้าสู่เดือนที่ร้อนที่สุดของปี อีกสิบวันก็จะเป็นวันชุงบก ปีนี้ตรงกับวันที่ 25 ก.ค. หลังจากนั้นอีกยี่สิบวันก็จะเป็นวันมัร-บก ปีนี้คือวันที่14 ส.ค.ถือเป็นวันสิ้นสุดของเดือน ประเทศเกาหลีจะมีอาหารที่นิยมทานกันในวันดังกล่าวคือ ซัมแกยทัง โพซินทัง และแตงโม ซัมแกยทังก็คือ ไก่ตุ๋นโสม ส่วนโพซินทังนี่มีหลายชนิดที่นิยมกันก็คือเนื้อน้องหมา วันนี้เลยเอาสูตรซัมแกยทังมาฝากกัน ทีแรกก็ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาเรื่องนี้ไว้ในบล็อกอาหารดีหรือว่าบล็อกเกา หลีลิซึ่มดี แต่ในที่สุดเมื่อเป็นเรื่องอาหารก็ขอเอาไว้บล็อกนี้แล้วกัน
เครื่องปรุงสำหรับ 2 ท่าน


ไก่ขนาดย่อมๆ (ตัวใหญ่ไปไม่อร่อยนะจ๊ะ) 2 ตัว
กระเทียม 8 กลีบ
ข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย
ขิง 1 แง่ง
โสม 4 ราก
ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
พุทรา 4 ลูก
เม็ดแปะก๊วย 10 ลูก
น้ำ 8-10 ถ้วย
เกลือ เล็กน้อย
พริกไืทย เล็กน้อย
วิธีทำ


1.ล้างไก่ให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ (บางคนที่ไม่ชอบหนังไก่ จะลอกออกก็ได้ค่ะ)


2.ล้างข้าวเหนียว แช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง



3.นำกระเทียม ข้าวเหนียว พุทรา โสม แปะก๊วยใส่ไว้ในตัวไก่ ไขว้ขาไ้ก่เข้าด้วยกันหรือจะใช้ด้ายมัดไว้ก็ได้



4.นำ ไก่ใส่หม้อ ใส่ขิง น้ำ เปิดไฟแรงหลังจากน้ำเดือดให้หรี่ไฟอ่อนๆ (ถ้ามีหม้ออัดความดันจะสะดวกมากเลยค่ะ) ถ้าใช้หม้อธรรมดาใช้เวลาตุ๋นประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าเป็นหม้ออัดความดันหลังจากมีเสียงร้องทิ้งไว้อีก5 นาทีก็ใช้ได้แล้วค่ะ


5.ช้อนน้ำมันทิ้งด้วยนะคะ ก่อนเสริฟปรุงรสด้วยพริกไทยและเกลือตามชอบ
เสร็จแล้วไก่ตุ๋นโสมหน้าตาเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ

พิซซ่ากิมจิ

วันนี้ก็ขอนำเสนอเมนูเบาๆเพราะคิดว่าทุกๆคนคงอยากบริโภคยๆอะไรที่มันไม่หนักหัว..เฮ้ย ไม่หนักท้องใช่ไหมค่ะ เมนูของเราคือ กิมจิจอนค่ะ เอ๊ะๆๆมีกิมจิมาเป็นส่วนประกอบอีกแล้วค่ะ เยอะจริงๆค่ะชาตินี้เค้าเน้นกิมจิจริงๆ สำหรับจานนี้ก็จะคล้ายๆ พาจอน ค่ะ พิซซ่าเกาหลีที่บล็อคเราเคยนำเสนอไปแล้วค่ะ จะว่าไปมันก็คือพิซซ่าอีกประเภทนั่นแหละค่ะ อันนี้ก็เป็นพิซซ่ากิมจิไงค่ะ
                ส่วนผสมหลักๆ 
-          กิมจิ
-          ต้นหอม(ต้นเล็กๆอ่ะค่ะ ภาษาเกาหลีเรียกว่า 실파 ค่ะ
-          ฮงโกชู홍고추(Red pepper)
-          밀가루(Wheat floru) ค่ะ นำมาคลุกเคลากับเกลือ
-          น้ำมัน และ น้ำเปล่า
วิธี ทำคราวๆนะค่ะ ..... ก็นำส่วนผสมทั้งสี่ชนิดผสมกันก่อนค่ะ เสร็จแล้วนำลงในกระทะที่มีลักษณะแบนๆโดยพยายามให้เป็นแผ่นบางๆนะค่ะ ตั้งความร้อนพอประมาณ เมื่อผ่านกระบวนการทอดๆๆในกระทะเสร็จก็จะมีหน้าตาเช่นนี้ค่ะ
Tip: มี ทิปเล็กๆน้อยๆมาฝากค่ะ สำหรับกิมจิจอนจานนี้คนเกาหลีมักจะทานเป็นของทานเล่นๆระหว่างวันและยิ่งใน วันที่ฝนตก บรรยากาศเย็นๆช่ำๆแล้วถ้าดื่ม มัคกอรีไปคู่กันด้วยหละก็...รสชาติจะยิ่งอร่อยเพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ


ปลาหมึกแห้งผัดเผ็ด


มนูนี้ทำส่งไปให้คนที่เมืองไทยทาน ทุกคนบอกว่าอร่อยดีค่ะ..โดยปกติเวลาไปทานร้านอาหารเกาหลีในซิดนีย์ น้อยร้านมากค่ะที่ทำปลาหมึกเผ็ดนี้เป็นเครื่องเคียง เนื่องจากปลาหมึกแห้ง อย่างถุงที่ซื้อมานี้ประมาณ ๕๐กรัม (แห้งนะคะ) ประมาณ ๕เหรียญ ทางร้านอาจจะไม่ค่อยอยากทำ เพราะส่วนมากคนจะขอ side dish เพิ่ม ถ้าอร่อย เดี๋ยวขาดทุน...มั๊งคะ.... แต่เมนูนี้เป็นเมนูสุดโปรดของมามี๊เลยค่ะ...เหมือนปลาหมึก๓รสบ้านเรา แต่นุ่มกว่า คนเกาหลีบางคนเขาเอาไปผัดค่ะ เพราะเขาชอบเหนียวหน่อย เคี้ยวมันดี แต่มามี๊อายุอานามเยอะแล้ว ขี้เกียจเคี้ยวอะค่ะ มันเมื่อย...เลยใช้ต้มเอา เหนียวนุ่มกันคนละแบบ เรามาลองดูกันนะคะว่าส่วนผสมมีอะไรบ้าง


ปลาหมึกแห้ง ถ้าอยู่ที่ซิดนีย์ ซื้อตามซุปเปอร์เกาหลีเลยค่ะ แต่ถ้าเมืองไทย ลองไปเกาหลีทาวน์ดู ตรงสุขุมวิท ๑๑

กระเทียมขูด สัก ๕-๖ กลีบ
โกชูจัง ๓ชต
มูลเหลี่ยด corn syrup ๓ชต
น้ำมันงา ๓ชต
น้ำมันพริก (ไม่รู้เรียกว่าอะไรอะค่ะ) chilli oil ๒ชต
ผง ซุปอย่างที่เห็นในรูป (จริงๆในถุงนั่นเป็นซุปปลา แต่ที่ใช้เป็นผงซุปเนื้อค่ะ ใครไม่ทานเนื้อ ลองใช้คนอร์บดดูก็ได้ค่ะ) นิดหน่อยนะคะ ประมาณ ๒ชช
พริกป่น ๑ชต


ขั้นตอนการทำนะคะ
ต้มน้ำค่ะ เอาปลาหมึกใส่ไป เอาน้ำท่วมปลาหมึกนะคะ








พอเดือด เทน้ำทิ้ง พักไว้ค่ะ


เรามาผัดเครื่องกันนะคะเริ่มจากใส่น้ำมันงาและน้ำมันพริก


ขูดกระเทียมใส่ลงไปค่ะ




ผัดโดยใช้ไฟอ่อนค่ะ เดี๋ยวกระเทียมไหม้


ตามด้วยโกชูจังค่ะ กะ มูลเหลี่ยด


ต่อด้วยผงซุปค่ะ


ผัดจนมันเข้ากัน ก็เอาปลาหมึกที่สะเด็ดน้ำแล้วใส่ลงไปค่ะ


ยกลงจากเตาเลยค่ะ แล้วคลุกปลาหมึกให้มันเข้ากับเครื่องนะคะ


เสร็จแล้วล่ะคะ....มามี๊ทำเสร็จก็เอาใส่คอนเทนเนอร์ค่ะ เก็บใส่ตู้เย็นไว้ทานได้อีกหลายมื้อค่ะ


หวังว่าเมนูนี้จะถูกใจหลายๆท่านนะคะ

ข้าวผัดกิมจิ

มาดูวัตถุดิบกันก่อนนะคะ
- หมูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆๆๆค่ะ
- กระเทียมสับละเอียด (ในรูปเป็นกระเทียม MK ได้มาตอนสั่งมากินที่บ้านอ่ะค่ะ)
- แล้วก้อนางเอกของเรา กิมจิสีส้มแปร๊ดดดด
- ไข 1 ฟอง ไว้ทำไข่ดาวค่ะ
เครื่องปรุงนะคะ จากซ้ายไปขวา
- ซอสเผ็ด ได้แถมมากะกิมจิที่ซื้อมาค่ะ
(สูตรอื่นเค้าให้ใส่โคจูจัง แต่ปุ้ยไม่มีเลยเอาอันเนี้ยใส่แทน มั่วดีจริงๆ)
- ซอสหอยนางรม
- น้ำมันงา
- ซอสแม๊กกี้
- น้ำตาลทราย
อย่างสุดท้ายคือ ข้าวค่ะ วันนี้ใช้ข้าวญี่ปุ่นนะคะ
ลองหุงเองเป็นครั้งแรก ง่ายกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ
ได้เวลาลงมือทำ
ก่อนอื่นเอากระเทียมลงไปเจียวให้หอมค่ะ
พอกระเทียมเริ่มเหลืองหอมมมแล้ว เราก้อใส่หมูลงไปผัดค่ะ
ผัดหมูไปสักพัก ก้อใส่กิมจิลงไปเลยค่ะ เหลือส่วนที่เป็นน้ำๆไว้นะคะ
คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วก้อใส่ข้าวเลยค่ะ
ใส่ข้าวแล้วเราก้อผัดๆๆๆ แล้วก้อเริ่มปรุงรสตามชอบเลยค่ะ
ใครชอบเปรี้ยว หวาน เค็ม แบบไหน ปรุงตามใจเลย
ปุ้ยเองก้อไม่เคยกินมาก่อนเหมือนกัน เลยไม่รู้ว่ารสชาดจริงๆเป็นยังไงอ่ะ
ทำไปชิมไปละกันนะคะ เพราะกิมจิแต่ละยี่ห้อก้อรสชาดไม่เหมือนกันด้วย
อย่าลืมเติมน้ำกิมจิที่เหลือลงไปผัดด้วยนะคะ ข้าวจะมีสีสวยมากๆๆๆเลยค่ะ
เสร็จแล้วก้อทอดไข่ดาวโปะไปอีก 1 ใบ
แต่ไม่เคยทอดไข่ดาวอ่ะ ตอนกลับข้างทุกลักทุเลมาก
มันเลยออกมายับเยินเยี่ยงนี้ เหมือนไข่โดนประทุษร้าย
เสร็จแล้วค่า ข้าวผัดกิมจิ๊ กิมจิ
กินไปดูซีรี่ย์เกาหลีไป ได้อารมณ์โคเรี้ย โคเรีย

หมูย่างเกาหลี

มี เพื่อนๆหลายคนถามถึงอาหารเกาหลีมา นอกจากกิมจิที่เป็นอาหารประจำชาติแล้ว หมูย่างเกาหลีคงติดท็อบเท็นกับเค้าด้วย แต่ตำรับดั้งเดิมของเค้านี่ไม่เหมือนที่บ้านเราน่ะ ที่เอาหมูย่างมากินกับน้ำจิ้มแจ่ว ต้นตำรับหมูย่างของที่นี่ที่เค้าเรียกว่า เทจิคาลบี คือ เอาเฉพาะเนื้อและกระดูกบริเวณซี่โครงเท่านั้น แต่บางร้านก็ลักไก่เอาเนื้อบริเวณอื่นๆมาผสมด้วย หมูย่างของเค้าจะห่อทานกับผักสดและเต้าเจี้ยวเกาหลีที่เรียกว่า ซัมจัง เอาภาพและสูตรมาฝากนะจ๊ะ


ซี่โครงหมูติดเนื้อ 1.2 ก.ก
น้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 80 กรัม
ขิง 1 แง่งเล็ก
หอมหัวใหญ่ 1 หัวใหญ่
ต้นหอมญี่ปุ่้นช้อนโต๊ะ 200 กรัม
น้ำมันงา 4 ช้อนโต๊ะ
งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเหลืิอง 5 ช้อนโต๊ะ
เหล้านิดหน่อย...

วิธีทำ
* ล้างซี่โครงหมู บั้งเนื้อส่วนที่ติดกับซี่โครง สะเด็ดน้ำให้แห้ง
* เอากระเทียม ขิง หอมหัวใหญ่ ต้นหอมญี่ปุ่น บดให้ละเอียด ผสมด้วยน้ำมันงา ซอสถั่วเหลือง เหล้า งาขาว น้ำตาลทรายแดง เอาซี่โครงหมูลงคลุกเคล้า หมักไว้ 2 -6 ชั่วโมง หรือหมักค้างคืนไว้ยิ่งดี หลังจากนั้นก็เอามาย่างได้เลย

สูตร นี้เป็นสูตรที่ทำทานเองที่บ้าน ส่วนตามร้านอาหารเค้าจะมีสูตรเฉพาะเป็นของตัวเอง บางร้านจะผสมผลไม้ประเภทสัปปะรด กีวี หรือลูกแพร์ลงไปด้วยเพื่อให้เนื้อนิ่ม บางร้านจะไม่ใช้ซอสถั่วเหลืองสำเร็จรูปแต่จะมีการทำน้ำซอสปรุงต่างหาก

เนื้อที่หมักแล้วหน้าตาเป็นอย่างนี้


พร้อมทานแล้วจ้า



เครื่องเคียง


นี่ก็เครื่องเคียง


หน้าร้อนๆอย่างนี้ต้องทานกับกิมจิน้ำแบบนี้ น้ำแข็งลอยเป็นเกล็ด ทานแล้วชื่นใจคลายร้อน

บะหมี่เย็น


เครื่องปรุงสำหรับทำน้ำซุปเย็น


เนื้อวัว (เนื้อไม่ติดมัน) 400 กรัม
หัวผักกาด 1 หัว
ทาชีมา 1 แผ่น (สาหร่ายสำหรับต้มน้ำซุป)
ต้นหอมญี่ปุ่น 1ต้น
หอมหัวใหญ่ 1หัว
ขิง แง่งเล็กๆ 1แง่ง
เกลือเล็กน้อย
พริกไทยเล็กน้อย
ซอสถั่วเหลืองเล็กน้อย
น้ำ 10 ถ้วยตวง
เครื่องปรุงสำหรับทำแนงเมียน


เส้นแนงเมียน
แตงกวาซอยเป็นเส้นบางๆ
แครอทซอยเป็นเส้นบางๆ
พริกชี้ฟ้าซอย
ไข่ต้มสุก
งาขาว

วิธีปรุงน้ำซุปเย็น
นำ เครื่องปรุงทุกอย่างใส่ในหม้อเติมน้ำ เปิดไฟแรง หลังจากน้ำเดือด ให้คอยช้อนฟองทิ้งให้หมด หรี่ให้ไฟอ่อนลง ต้มทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น ใช้ผ้าขาวบางซับน้ำมันที่ลอยอยู่ด้านบนออกหรือจะนำน้ำซุปที่ต้มเสร็จแล้วไป ใส่ไว้ในตู้เย็นก็ได้ค่ะ หลังจากน้ำซุปเย็นแล้วจะเป็นไข ให้ช้อนไขที่อยู่ด้านบนทิ้งให้หมด นำน้ำซุปที่ได้เข้าช่องฟรีซจะได้น้ำซุปเย็นแบบเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
เส้นแนงเมียนนี่ต้องหาซื้อตามร้านขายอาหารเกาหลีในย่านเกาหลีทาวน์ จะเป็นเส้นแช่แข็ง ต้องนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที
เส้นแนงเมียนแช่แข็ง
เส้นแนงเมียนที่แช่น้ำแล้ว
หลังจากนี้ก็นำมาต้มในน้ำร้อน ลองชิมดูถ้าเส้นนุ่มก็ใช้ได้แล้ว เส้นที่ต้มสุกใหม่ๆจะคล้ายกับเส้นสลิ่มมากเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็นำเส้นมาล้างน้ำเย็นหลายๆครั้ง ขมวดเป็นก้อนกลมๆ พักไว้ในชาม
นำ แครอท แตงกวา ไข่ต้มสุก วางบนเส้นแนงเมียน ใส่น้ำซุปเย็นโรยด้วยงาขาว แค่นี้ก็พร้อมทานแล้วค่ะ ส่วนใครที่ชอบน้ำซุปเย็นที่ออกรสหวานอมเปรี้ยวก็สามารถเติมน้ำตาลทรายและน้ำ ส้มสายชูได้ตามใจชอบ

กิมจิแบบง่ายๆ

วิธีการทำกิมจิแบบง่ายๆ
• ผักกาดขาวปลี 1 ต้น
• เกลือเม็ด
• เกลือป่นสำหรับปรุงรส 1 ช้อนชา
• ซอสเกาหลีหรือน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกชี้ฟ้าแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
• ขิงแก่สับละเอียด 1/2 ช้อนชา
• กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนชา
• ต้นหอมซอยละเอียด 2 ต้น
• แครอทซอยเป็นเส้น 1 หัว
• แอปเปิ้ลซอยเป็นเส้น 1 ลูก

วิธีทำ
1. แกะผักกาดขาวออกเป็นใบๆ แช่นำไว้สักครู่ หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ ซาวกับเกลือเม็ด แล้วพักทิ้งไว้ 3 - 5 ชั่วโมง ล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง บีบน้ำออกให้หมด
2. เอาส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน ชิมดูรสให้ออกเผ็ด เค็ม หรือตามชอบใจ หลังจากนั้นก็นำผักกาดขาวมาผสมเข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้ค้างคืนแล้วจึงเก็บไว้ในตู้เย็นต่ออีก 1-2 วัน ก็เริ่มทานได้แล้วล่ะ หรือใครอยากทานกิมจิสดก็ไม่ได้หมักค้างคืน เพียงแต่ใส่น้ำมันงาและงาขาวลงไปนิดหน่อยก็ทานได้แล้วอ่ะ.....



อีกสูตรนะคะ
http://qwer.dek-d.com/board/view.php?id=946829
ขั้นตอนการทำกิมจิแบบต้นตำรับ


กิม จิที่มีรสชาติอร่อยนั้น ต้องเป็นรสชาติแบบพื้นบ้านที่ทำกันในครัวเรือน ในส่วนนี้ได้รวบรวมขั้นตอนการทำกิมจิขั้นพื้นฐาน ที่สามารถทำได้เองด้วยวิธีแสนง่าย รับรองได้ว่ารสชาติเทียบเท่ากับต้นตำรับอย่างแน่นอน

ส่วนผสม
ผักกาดขาว1 หัว
เกลือ60 กรัม
หัวไชเท้า200 กรัม
สาลี่1/4 ผล
ต้นหอมเล็ก1/4 กำ
กุยช่าย1/2 กำ
กระเทียมสับ1 ถ้วยเล็ก
ขิงขูดเล็กน้อย
หอมใหญ่1/4 หัว
ปลาหมึก50 กรัม
ลูกพลับ1/4 แพ็ค
กุ้ง100 กรัม
ข้าวเหนียว2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป (จากสาหร่ายและปลาแห้ง)70 มล.
พริกป่น250 มล.
เกลือเล็กน้อย
ผงปรุงรส2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล3 ช้อนโต๊ะ
งาคั่วเล็กน้อย

วิธีทำ
ดองเค็ม การนำผักมาดองเค็มต้องอาศัยระยะเวลาและการปรับรสชาติให้อร่อย
1. นำผักกาดขาวมาแบ่งครึ่ง
2. เด็ดออกทีละใบ แล้วหมักเกลือในประมา
ขั้นตอนการปรุง การปรุงรสกิม
ส่วนผสมอย่างผลไม้และอาหาร
จิให้มีรสชาติที่อร่อย ให้ยึดตาม
ทะเล ด้วยก็ได้
รสชาติที่ตัวเองชอบ โดยอาจ
3. หั่นหัวไชเท้า สาลี่ ต้นหอมและผักกุยช่ายเป็นเส้นยาวประมาณ  4 ชม.4. ผสมหอมใหญ่สับ กระเทียมสับละเอียด และขิงขูด เข้าด้วยกัน5. หั่นปลาหมึก ลูกพลับและกุ้ง ให้เป็นชิ้นเล็กๆ
6. ตั้งไฟ เติมข้าวเหนียวและน้ำในหม้อ จากนั้นคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน7. เติมน้ำข้าวเหนียวและน้ำซุปลงไปในชาม ผสมให้เข้ากัน8. เติมส่วนผสมในข้อ 3 4 5 ลงไป จากนั้นทิ้งไว้ 30 นาที แล้วปรุงรสด้วยส่วนผสมส่วนแรก
หมักเสร็จ เมื่อหมักเสร็จ
อร่อย
สามารถรับประทานได้ทันทีหรือนำมาประกอบอาหาร ก็ยิ่ง

9. ล้างผักแล้วดองเกลือทิ้งไว้ 6-7 ช.ม.10. นำเครื่องปรุงที่ทำไว้ในข้อ8. มาทาที่ผักแต่ละใบ จากนั้นเก็บเข้าตู้เย็นประมาณ 1 วันเต็ม
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bigsize&month=11-2006&date=05&group=1&gblog=32
ส่วนผสมผักกาดขาว 1 หัวใหญ่
แครอท ครึ่งหัวซอยให้เป็นเส้นๆ
ไชเท้า ครึ่งหัวซอยให้เป็นเส้นๆ
หัวหอมใหญ่ 1หัว(ฝนละเอียดครึ่งหัว อีกครึ่งหั่นเตรียมไว้)
กระเทียมสับ 1ชต.(ชอบมากใส่มากค่ะ)
ขิงขูดละเอียด 1ชต.(ชอบมากใส่มากค่ะ)
พริกเม็ดใหญ่ 5 เม็ด
พริกกระเหรี่ยง 5-7เม็ด(แล้วแต่ค่ะว่าชอบเผ็ดแค่ไหน)
**พริกเกาหลีแพงค่ะ พริกบ้านเราก็มีประยุคซะเลย อิอิ**
แป้งข้าวเหนียว 1ชต.
น้ำตาลทราย 1ชต.
เกลือ 1ถุง(เกลือแบบถุงละบาทนะคะ จะให้รสดีกว่าเกลือไอโอดีนค่ะ)
*** บางสูตรใส่ บางสูตรไม่ใส่ค่ะ***น้ำปลาเกาหลี เศษ1ส่วน4ถ้วยหรือน้ำปลาไทยก็ได้ค่ะ(ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ เพระยู้เองก็ไม่ใส่ค่ะ แต่ยู้ใช่น้ำหัวเชื้อที่ปรุงเองมาใส่ค่ะ ทำจากคอมบุ ปลาแห้ง เกลือ น้ำตาล)

วิธีทำ
ล้างและหั่นผักกาดขาว พักให้สะเด็ดน้ำ



นำเกลือ1ถุงเล็ก ละลายน้ำ



จากนั้นเอาผักกาดขาวลงแช่ประมาณ5-8ชม.


หั่นและล้างผักที่เหลือเตรียมไว้



ล้างแหละหั่นพริกเตรียมไว้



นำพริก2อย่าง พริกเกาหลี น้ำปลา ลงไปปั่นรวมกัน



ปั่นออกมาแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ พักเอาไว้ก่อน



นำน้ำตาลและแป้งข้าวเหนียวใส่น้ำนิดหน่อย แล้วนำไปตั้งไฟจนแป้งสุกข้น *แป้งเป็นตัวให้ทำกิมจิเปรี้ยวค่ะ



จากนั้นนำแป้งที่สุกแล้วลงผสมกับพริกที่ปั่นแล้ว



นำหอมใหญ่ขูดครึ่งหัวใส่ผสมลงไป



5ชม.ผ่านไป เอาผักที่แช่น้ำเกลือเอาไว้ไปล้าง2-3น้ำแล้วบีบน้ำออกให้มากที่สุด



จากนั้นเอาผักทุกอย่างลงผสมกับซอสพริกที่ทำไว้



คลุกจนเข้ากันแล้วเทใส่ภาชนะเลยค่ะ สีสันน่าทานทีเดียวหมักไว้2-3วันในอุณภูมิห้อง ถ้าต้องการให้เปรี้ยวก็ทิ้งไว้นานหน่อยค่ะ



อยากกินเดี๋ยวนี้เลยอ่ะ ฮือๆ



กิมจิแบบทั้งต้นค่ะ ทำวิธีเดียวกันหลังจากแช่เกลือแล้วล้างน้ำและบีบน้ำออกให้ได้มากที่สุด



จากนั้นแหวกทีละใบทาพริกให้ทั่วทุกใบ



หลังจากทาทั่วแล้วจะได้ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ



จาก นั้นนำใส่ภาชนะดองทิ้งไว้2-3วัน ถ้าชอบแบบเปรี้ยวให้ไว้ที่อุณหภูมิห้องปกติได้ความเปรี้ยวที่ชอบแล้วจากนั้น ให้เก็บรักษษไว้ในตู้เย็นค่ะ แต่ถ้าชอบแบบไม่เปรี้ยวมากและอยากให้ผักดูสดให้นำเข้าตู้เย็น